สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 4
 
     
     
 
 
     
  เด็กๆ ช่วยครอบครัวประหยัดได้อย่างไร : การปลูกฝังนิสัย รู้ใช้รู้ประหยัดตั้งแต่เล็กๆ ในวัยเริ่มต้นเป็นสิ่งดีนะคะ  
     
  คุณครู " หนูช่วยครอบครัวประหยัดได้ยังไงกันบ้านคะ "  
       
  ปิง " ปิดไฟ ปิดน้ำ ปิดอะไรให้หมด จะได้มีเงินใช้ได้นานๆ ครับ " (กลับบ้านปิดทุกอย่างให้หมดนะอย่าลืมล่ะ!)  
       
  จา " ต้องประหยัดเงิน ช่วยพ่อแม่หาตัง เช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานทดสอบที่บ้าน แต่จะต้องขอเปิดแอร์ตอนนอน เด็กหลับไม่ได้เพราะมันร้อนครับ " (สรุปประหยัดเงินแต่ไม่ประหยัดแอร์)  
       
  มอส " ใช่ครับ เปิดแอร์แล้วสบาย ถ้าปิดแอร์เพื่อนๆ ก็จะเหงื่อออกนะครับ แล้วก็ต้องอาบน้ำ ถ้าเปิดแอร์ก็ไม่ต้องอาบน้ำครับ " (จะบอกว่าเปิดแอร์ช่วยให้ประหยัดน้ำนะครับ)  
       
  แมน " คุณครูครับถ้าไม่เปิดแอร์ยุงก็จะกัด ผมเคยโดนมาแล้วครับ ที่บ้านผมพอเปิดแอร์ยุงกัดเลยครับ ยุงมันเข้าตรงรูข้างล่างกับรูข้างบนครับ " (โถเรื่องง่าย ๆ นะแมน ก็ปิดรูข้างล่างกับข้างบนไม่ให้ยุงเข้าก็สิ้นเรื่อง ประหยัดแอร์ไม่มียุง แต่อาจจะอารมณ์ไม่ดีเท่านั้นเอง)  
       
 
 
       
  เรื่องของการบ้าน : ได้อ่านข้อเขียนจากทางบ้านแล้ว คุณครูรู้สึกว่าต้องนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ  
       
  ปะป๊า " ปะป๊าเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ทำการบ้านวันอาทิตย์ "  
       
  ลูก " ใช่ครับ "  
       
  ปะป๊า " แล้วรู้ไหมว่าเพราะอะไร "  
       
  ลูก " เพราะเราจะได้มีเวลาเล่นและไปเที่ยวได้อย่างสบายใจครับ "  
       
  คุณครูอ่านแล้วรู้สึกผิดมากเลย ที่ทำให้ทุกท่านมีความกังวลใจ แต่การบ้านเป็นความรับผิดชอบเล็กๆ น้อยๆ ของนักเรียนนะคะ คุณครูจะพยายามปรับปรุง ไม่ให้เสียบรรยากาศในบ้าน แต่อาจจะไม่ถูกใจ ครบทุกบ้านนะคะ เพราะถ้าไม่มีการบ้านในวันหยุด คุณครูก็จะโดนตำหนิว่า ผู้ปกครองมีเวลาในวันหยุด ทำไมไม่มีการบ้านให้ลูก ส่วนในวันธรรมดา ผู้ปกครองไม่มีเวลาทำไมให้การบ้าน เกรงจะเป็นคำถามคำตอบที่ ไม่อาจจบกันได้ แต่สำหรับบ้านนี้ที่เขียนมาให้อ่าน คุณครูเข้าใจว่าคุณพ่อ ภาคภูมิใจลูก ที่มีความรับผิดชอบ และมีเหตุผลประกอบได้ดีค่ะ คุณครู รักลูกของท่านทุกคนนะ อย่าคิดเป็นอย่างอื่น
 
       
 
 
       
  เรื่องคนที่เกิดก่อน : เหตุการณ์จริงรายงานส่งตรงมาจากทางบ้านเล่าสู่กันฟัง  
       
  คุณพ่อ "ลูกใช้สีเมจิกระบายสีแล้วไม่ปิดฝา เห็นไหมสีแห้งหมดเลยต่อไปปะป๊าไม่ซื้อให้แล้วนะ"  
       
  ลูก " ลูกไม่ได้เป็นคนทำครับ คนอ้วนตัวโตที่นั่งข้างหลัง ที่เกิดก่อนผม เป็นคนทำครับ " (ปะป๊าเข้าใจหรือยังครับว่า คนที่เกิดก่อนผมน่ะคือใคร ก็ลูกคนโตของป๊าไงครับ กรุณาอย่าโทษคนผิดผิด อีกนะครับ ผมไม่ยอม)
 
       
 
 
       
  ทำไมเวลาคุณพ่อคุณแม่ทำโทษลูกแล้วลูกไม่โกรธ : ขอบคุณสำหรับคำถาม ที่คุณครูนึกไม่ถึงแต่เป็น คำถามที่น่ารัก น่าติดตามหาเหตุผลจากเด็กๆ นะคะ  
       
  คุณครู " เด็กๆคะ ทำไมเวลาคุณพ่อคุณแม่ทำโทษลูกแล้วลูกไม่โกรธคะ "  
       
  สุชานุช " หนูไม่โกรธค่ะ เพราะคุณแม่สอนว่าถ้าโกรธคุณพ่อคุณแม่จะบาปค่ะ " (คำสอนได้ผลดีนำมาปฏิบัติได้ด้วย เก่งค่ะ)  
       
  ฐิติรัตน์ " หนูทำผิดคุณพ่อคุณแม่ทำโทษ ไม่เป็นไรค่ะ หนูยกโทษให้คุณแม่กับคุณพ่อค่ะ แต่หนูเคยโดนตีแค่วันเดียวค่ะ" (พ่อแม่ขอบใจลูกนะ)  
     
 
 
       
  ลูกน้ำ " ซักกะวันก็ไม่เคยถูกตีเลยค่ะ " (เธอบอกว่า เธอแน่มากค่ะ)  
       
  โปรเจค " ไม่โกรธคุณแม่ครับเพราะคุณแม่ชอบพูดว่าลูกน่ารัก " (ตอบได้ดีถูกใจผู้คน สมเป็นนายแบบตั้งแต่เด็กๆ)  
       
  แคมป์ " แคมป์ไม่อยากโกรธปะป๊าครับ เพราะถ้าโกรธปะป๊าก็จะว่า แคมป์ทำแบบนี้ทำไม แคมป์เลยโกรธแค่นิดหน่อย เพราะแคมป์ทำของเล่นหักเองครับ "
(อารมณ์ของแคมป์ช่างมีเหตุผลดีจัง น่าเห็นใจแคมป์จังนะ)
 
       
 
 
       
  ทำไมเด็กชอบเล่นแปลกๆ : บางครั้งเวลาเผลอ เด็กๆ ก็ชอบเดินเล่น ปีนป่ายบนอ่างล้างมือ หรือแอบไปนอนซุกซ่อนในบ้านจิ๋วหลังเล็ก ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าไปนอนเล่นได้ คุณครูจึงถาม ตามประสาอยากรู้ใจของเด็กๆ  
       
  คุณครู " ทำไมเด็กชอบเล่นแปลกๆ คะ "  
       
  เกรซ " เค้ายังเป็นเบบี๋อยู่ค่ะ "  
       
  ธัชชัย " เค้ามีกำลังเยอะครับ "  
       
  แทต " สงสัยเค้าอาจจะดูการ์ตูนมากไปนะครับ "  
       
  เจี่ย " หรือเค้าอาจจะเล่นเกมมากไป เจี่ยก็เคยปีนครับ บางครั้งเด็กๆ เค้าก็ไม่อยากเชื่อฟังคุณครู เพราะถ้าเค้าเชื่อเค้าก็ไม่ได้เล่นแปลกๆ ครับ " (กล้าตอบได้ดีมากนะหนู)  
       
  นิวยอร์ค " สมัยเด็กผมเคยนอนในตะกร้าครับ โตขึ้นผมก็อยากนอนเล่นในตะกร้าใส่ของ ของโรงเรียนครับ " (ยอมรับว่าเล่นแปลกพร้อมให้เหตุผลอย่างน่าจะให้อภัยได้)
 
       
 
 
       
  ทำไมเด็กๆ ต้องไปโรงเรียน : ใครจะตอบคำถามธรรมดาๆ ได้ดีเท่าเด็กคงไม่ได้ คุณครูจึงชวนเด็กๆ มาพูดคุยหาคำตอบกัน  
       
  คุณครู " ทำไมเด็กๆ ต้องมาโรงเรียนคะ "  
       
  ปัญญากร " เด็กต้องไปโรงเรียนเพราะเป็นหน้าที่ต้องไปเรียนหนังสือไม่เรียนไม่ได้ เดี๋ยวไม่มีความรู้ เด็กเค้ายังไม่เข้าใจครับ " (ค่ะคุณครูจะสอนหนูให้เข้าใจนะคะ)  
       
  พัชรียา " ถ้าไม่เรียนหนังสือจะเป็นเด็กโง่ หนูจะเรียนหนังสืออีก 5 ปี เรียนเสร็จแล้วหนู จะไปทะเล จะไปว่ายน้ำกับแม่ค่ะ " (อีก 5 ปี จะสำเร็จการศึกษา แล้วคุณแม่เตรียมฉลองด้วยนะคะ)  
       
  ญาณิศา " หนูมาเรียนหนังสือจะได้เก่ง จะได้พูดภาษาอังกฤษได้ พอโตขึ้นหนูจะไป ประเทศอังกฤษที่ พวกฝรั่งเค้าอยู่กัน แล้วหนูก็จะไปประเทศจีนด้วยค่ะ " (เก่งจริงนะ เรียนแบบมีเป้าหมาย ฉลาดจังเลย)  
       
  (ภู) ภวัต " ภูมาโรงเรียนมาเอาความรู้ไปใช้ที่ทำงาน เช่นสมมุตว่าิหัวหน้าให้้อ่าน นอ-หนู เราจะได้อ่านได้ แล้วเอาความรู้ไปใช้เวลาจำเป็น เช่นไปเล่นเกมทศกัณฐ์ก็ได้ แต่ผมไม่อยากออกทีวี ตอนที่ออกทีวีต้องใช้ความสามารถคิดนานมาก ใช้เวลานานผมเป็นคนไม่อยากเสียเวลาครับ " (เหตุผลของภูชัดเจนมาก โปรดสังเกตคำบอกเล่าของภูจะพบว่าภูมีความรู้ ความสามารถแต่ภูไม่อยากเสียเวลา คุณครูเชื่อมั่นลูกศิษย์คุณครูค่ะ)  
     
 
              ติดตามสังคมลูกรักต่อได้ที่
 
     
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 1
 
 
 
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 2
 
 
 
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 3
 
 
 
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 4
 
     
 
Website : Chaowdee.com