สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 1
 
     
     
 
 
     
       เติมชีวิตของเด็กๆให้เต็ม วันนี้วันที่พวกเขาต้องการคนนำทาง วันนี้วันที่ผู้ใหญ่ทุกคนช่วยเหลือเด็กๆ โรงเรียนอนุบาลเชาวน์ดีได้จัดเรียบเรียง คำถามและคำตอบที่ได้จากเด็กๆ หลายแง่คิดและแง่มุม ที่คุณครูและผู้ปกครอง อยากทราบเกี่ยวกับพวกเขา โรงเรียนอนุบาลเชาวน์ดีขอขอบคุณเด็กๆทุกคน ที่ได้ช่วยกันออกความคิดความเห็น จนสำเร็จเป็นผลงานดีๆอีกชิ้นหนึ่ง  
     
 
 
     
 

      มีคำตอบให้ผู้ใหญ่ทราบจากเด็กๆ เด็กดีควรเชื่อฟังพ่อแม่ แล้วหนูคิดว่าพ่อแม่ควรเชื่อฟังลูกไหมคะ คำถามน่ารักแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นคำถามที่มาจากผู้ปกครองทางบ้าน น่าสนใจและน่าค้นหาคำตอบ

 
     
  คุณครู " เด็กดีควรเชื่อฟังพ่อแม่แล้วเด็กๆ คิดว่าพ่อแม่ควรเชื่อฟังลูกไหมคะ "  
  อคิราภ์ " ควรฟังลูกเพราะหนูน่ารักค่ะ " (ตอบน่ารักจริงๆ)  
  ปรินดา " ควรฟังลูกค่ะ ถ้าแม่รักหนู แม่ควรฟังหนูด้วยค่ะ " (มีเหตุผลรัดกุมดีมาก)  
  ออสติน " ต้องฟังลูกเพราะลูกจะรักคุณพ่อคุณแม่ต่อ ไปอีกนานมากเลยครับ" (พูดจาสมเหตุสมผลดีจัง)  
  ลูกน้ำ " ต้องฟังลูกค่ะเพราะลูกน่ารักไง ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ฟังลูกต่อไปลูกก็จะไม่ฟังคุณพ่อ คุณแม่ค่ะ " (ประชาธิปไตยเบ่งบานนะเด็กน่ารัก)  
  ปยุต " ต้องฟังครับ เพราะแม่บอกให้ลูกเชื่อพ่อแม่ พ่อแม่ก็ต้องเชื่อลูกด้วยนะครับ " (ฟังเหตุผลแล้ว บิดามารดาโปรดปฏิบัติตามคำสั่งของลูกด้วยค่ะ )  
  กณิศ " ควรฟังลูกครับเพราะแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนดี ลูกก็ต้องการให้คุณแม่เป็นคนดีด้วยครับ " (สรุปก็คือเด็กและผู้ใหญ่ต้องเป็นคนดีนะครับ)  
  จินจ๋า " ควรฟังลูกค่ะเพราะหนูเป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง ลูกมีความรู้จึงควรฟังลูกค่ะ " (นี่ไง เก่งจริงๆ เหตุผลใช้ได้ไหม ใครสอนให้ฉลาดได้ขนาดนี้เนี่ย)  
  ซูโม่ " ไม่ต้องเชื่อฟังเด็กครับ เพราะผู้ใหญ่โตกว่า เด็กอายุน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่บางครั้งก็ต้องฟัง เด็กนะครับ เพราะเด็กเค้าอยากจะบอกว่า เค้าอยากไปไหนก็ต้องมีผู้ใหญ่พาเด็กไปด้วยครับ " (เหตุผลคงถูกใจผู้ใหญ่แต่อย่าลืมให้รางวัลเด็กด้วยนะครับ)  
       
 
 
       
  จะเป็นเด็กดีทำยากไหมคะ : คุณครูไม่อยากตั้งคำถามนี้กับเด็กๆเลย เพราะวัยน้อยๆ เพียงเท่านี้เราคงจะวัดความดีจากธรรมชาติ ซุกซนไม่หยุดนิ่ง ช่างสร้างสรรค์ ช่างพูดของหนูก็อาจจะไม่ยุติธรรมก็ได้ แต่ลองถามเด็กที่เราหลงรักดูซิคะ  
       
  คุณครู " ถ้าหนูจะเป็นเด็กดี ทำยากไหมคะ "  
  นรวิชญ์ " ทำยากครับ เด็กดีต้องทำตัวให้น่ารัก นิ่งอยู่เฉยๆ " (คำตอบก็คือเธอนิ่งเฉยไม่ค่อยเป็น)  
  ใบหม่อน " เด็กดีทำยากครับ แต่ใบหม่อนทำง่ายต้องยิ้มแย้มแจ่มใสครับ " (เด็กดีที่ว่าทำยากของใบหม่อนก็คือใบหม่อนหยุดนิ่งได้ไม่นานครับ)  
  แนท " เด็กดีทำไม่ยากครับไม่ซน อย่าทำให้พ่อโมโห พ่อชอบโมโหเรื่องลูกทั้งคู่ซน แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ซนครับ " (สรุปได้ความว่า พี่น้องทั้งคู่ซนแต่ตอบดูดีจังไปรับรางวัลที่คุณพ่อนะ)  
  ศตคุณ " เด็กดีทำไม่ยาก เช่นต้องเลี้ยงพ่อแม่ให้ดีเพราะจะได้อยู่กับเราตลอดไป เช่น ให้คุณพ่อคุณแม่ทานข้าว ทานผักทานหมูแต่ไม่ต้องพาไปเที่ยว เพราะ เขาขับรถเป็นแล้วครับ "
(ถนัดด้านการเลี้ยงดู แต่ไม่ถนัดบริการพาเที่ยวนะครับ)
 
  จินจ๋า " เด็กดีทำไม่ยากค่ะ ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ หนูเคยเชื่อค่ะ เวลาเชื่อก็ดีค่ะ ถ้าหนูไม่เชื่อก็ไม่ดี เมื่อวันเสาร์หนูไม่เชื่อ หนูอยากเล่นเต๊นท์แต่พ่อแม่ไม่ให้เล่น ให้กินข้าวให้หมด หนูชอบกินหมูกรอบค่ะ " (น่ารักนะคะ รู้จักผิดชอบชั่วดีตั้งแต่เล็กๆ อย่างนี้จะทำยังไงกับเด็กไม่เชื่อดีนะ)
 
       
 
 
       
  ทำไมเด็กๆ อยู่บ้านกับอยู่ที่โรงเรียนไม่เหมือนกัน : คุณครูได้รับฟังจากผู้ปกครองหลายท่าน เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกเมื่ออยู่ที่บ้าน และที่โรงเรียน ไม่เหมือนกัน อยู่บ้านหนูๆ ซุกซนแต่อยู่ที่โรงรียนคุณครูรายงานพฤติกรรมลูกว่าเป็นเด็กดี เรียบร้อย แต่ก็มีอีก หลายท่านที่รายงานความซุกซน น่ารักน่าเอ็นดู กล้าแสดงออก ไม่ค่อยหยุดนิ่งเช่นเดียวกันกับที่โรงเรียน ลองฟังคำพูดน่ารักและจริงใจของเด็กๆ นะคะ  
       
  ชาคริต " ตอนผมอยู่บ้านก็ไม่ซน อยู่โรงเรียนก็ไม่ซน คุณพ่อผมก็ไม่ซนครับ "  
  คุณครู " สงสัยชาคริตพูดผิดเกือบหมด เพราะตอนอยู่โรงเรียนหนูซนนะ ตอนอยู่บ้านก็ได้รับรายงานว่าซนเป็นปกติ ส่วนเรื่องคุณพ่อไม่ซนต้องให้คุณแม่หนูรับรองดีกว่านะคะ "  
  ปยุต " คุณครูครับตอนผมอยู่บ้านผมชอบเรียบร้อย ตอนอยู่โรงเรียนผมซนไปหน่อย แต่ผมว่าคุณครูอดทนหน่อยนะครับ "  
  คุณครู " คำขอร้องจากปยุตน่าจะดีนะเรื่องความอดทนน่ะ คุณครูอดทนมานานแล้วและคงจะอดทนกับเด็กน่ารักอย่างหนูไปอีกนานค่ะ "
 
       
 
 
       
  ปะป๊าแกล้งหนู (โดยไม่ตั้งใจ)  
  อิงอิงเป็นชื่อเด็กหญิงฉลาด สดใส ร่าเริง มีรอยยิ้มให้ทุกคนเสมอ วันหนึ่งเธอร้องไห้ ดูน่าสงสาร คุณครูเรียกเธอมากอดพูดคุยกับเธอ  
  คุณครู " หนูเป็นอะไรคะ หนูร้องไห้ทำไม "  
  อิงอิง " ปะป๊าทำหนูร้องไห้ หนูไม่สบาย ปะป๊าเค้าแกล้งให้หนูมาโรงเรียน ถ้าปะป๊ารู้ว่าหนูไม่สบาย ปะป๊าก็จะไม่แกล้งหนูอย่างนี้ค่ะ " (ยังเห็นใจปะป๊าอีกนะ คุณครูสอบถามปะป๊าแล้ว ปะป๊าบอกว่าไม่ทราบว่าหนูไม่สบาย ขอโทษนะครับ คุณลูกอิงอิงที่น่ารัก)  
       
 
 
       
  ทำไมไม่ชอบทานข้าว : คำถามจากหลายบ้านซ้ำกันโดยมิได้นัดหมาย มีเหตุผลประการใด คงได้คำตอบจากใจของเด็ก  
       
  คุณครู " เด็กๆ คะทำไมไม่ชอบทานข้าวคะ "  
  ณัฐกร " กินเยอะเดี๋ยวอ้วน เดี๋ยวไม่หล่อครับ "  
  ชินดนัย " ต้องรอให้เด็กหิวๆ ก่อนแล้วค่อยกินครับ "  
  ตฤณ " ถ้ากินข้าวยากก็ให้คุณพ่อคุณแม่อบรมซีครับ "  
  ธรพร " ก็เพราะเค้ากำลังดูการ์ตูนอยู่ก็ได้นะคะ "  
  เจนนี่ " ผู้ใหญ่ตั้งสิ่งของที่เค้าชอบกิน เค้าก็จะกินได้ค่ะ "  
  บอส " ถ้าเป็นโจ๊กที่โรงเรียนกับโจ๊กที่บ้าน เค้าจะกินได้เยอะครับ "  
  เอิร์น " เพราะเค้าขี้เกียจกินข้าว เค้าอยากกินแต่ขนม ผู้ใหญ่ต้องตามใจบ้าง ถ้าผู้ใหญ่ตามใจเด็ก เด็กก็จะรักผู้ใหญ่ แล้วต่อไปเค้าจะเชื่อฟังค่ะ "  
 
รับทราบเหตุผลของเด็กแล้ว ผู้ใหญ่โปรดพิจารณาแก้ไขพัฒนาตนเองด่วนนะ
 
       
 
 
       
  อยากชนะ : ในการแข่งขันเป่ายิ้งฉุบ เพื่อเป็นการตัดสินใจให้กลุ่มผู้หญิง หรือผู้ชายจะอยู่พูดคุยกับคุณครู โดยมี ปิงปิง และ้ เกรซ เป็นตัวแทนกลุ่มอนุบาล 2 / 1  
       
  คุณครู " คุณครูเลือกปิงปิงกับเกรซมาเป่ายิ้งฉุบ ใครชนะได้อยู่กับคุณครูนะคะ "  
  ปิงปิง " ปิงปิงต้องชนะแน่เลยครับ " (พร้อมแสดงอาการดีใจกระโดดโลดเต้นด้วยหัวใจพองโต)  
  ปิงปิง
กล่าวต่อ
" เออ เออ เออ แล้วเกรซจะออกอะไรล่ะ "  
  เกรซ (ทำท่างง ใครจะบอกล่ะ)  
 
แล้วผลลัพธ์ก็ปรากฏว่าเกรซออกกรรไกร ปิงออกกระดาษ หัวใจพองโตของปิงก็เลยยุบไปนิดหน่อย และยอมรับในกติกาอย่างน่าชื่นตาบาน สมเป็นนักกีฬาประชาธิปไตยที่แท้จริง
 
       
 
 
       
  เรื่องตื่นเช้าและตื่นสายของเด็กๆ  
  คำถามชวนสงสัยว่าหนูตื่นเช้าได้ไงโดยไม่ต้องปลุก หรือทำไมหนูตื่นสาย ไม่ยอมลุกซะที เป็นเรื่องของแต่ละบ้านที่จะถามกันเป็นประจำ เป็นภาระหน้าที่ทั้งผู้ปลุกและผู้โดนปลุก  
       
  คุณครู " ทำไมหนูตื่นแต่เช้าคะ "  
  ฟ้าพร " หนูตื่นแต่เช้า เพราะหนูจะใส่บาตรตอนเจ็ดโมงเช้าในวันหยุดค่ะ ส่วนวันเรียนหนูไม่ได้ใส่บาตร เพราะหนูต้องรีบไปโรงเรียนค่ะ " (เป็นตัวอย่างพุทธศาสนิกชนตั้งแต่ยังเล็กเลยนะคะ น่ายินดีกับคุณพ่อคุณแม่ และได้ทราบข่าวว่าฟ้าพรยัง ติดตามคุณแม่ ไปปฏิบัติธรรมช่วยงานในวัดร่วมกับเด็กอื่นอีกประมาณ 50 คน เป็นประจำ)  
  รัตนพร " วันหยุดหนูตื่นสายค่ะ วันเรียนหนูตื่นเช้า หนูชอบวันเรียนเพราะว่าที่โรงเรียนสนุกค่ะ " (คุณครูจะทำโรงเรียนให้น่าอยู่และน่าสนุกสำหรับทุกคนต่อไปค่ะ)  
  ซันนี่ " วันหยุดหนูตื่นสายหนูอยากนอนนานๆ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะพาไปเที่ยวหนูก็ตื่นเช้าได้ค่ะ " (ปรับตัวเก่งจังค่ะ )  
  ตาต้า " คุณพ่อคุณแม่ตื่นเช้า ตาต้าก็ตื่นเช้าเหมือนกันครับ " (ตาต้าจะบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นต้นแบบให้ลูกครับ)  
       
 
 
       
  ส้มโอ " หนูตื่นเช้าดูทีวีแล้วก็แต่งตัวไปโรงเรียน ปะป๊ายังไม่ต้องตื่น เพราะปะป๊าไม่ต้องเรียนหนังสือ แล้วพอหม่ามี้บอกปะป๊าให้ตื่น ปะป๊าก็ตื่นไม่งอแง แล้วขับรถมาส่งหนูที่โรงเรียนค่ะ " (รายงานได้ชัดถ้อยชัดคำ เห็นภาพน่ารักของครอบครัวนะคะ)  
  ชมพู่ " เมื่อคืนปะป๊างอแง ปะป๊าจะนอน ปะป๊างอแงน้ำตาไม่ไหล ตอนปะป๊างอแงหนูนอนดูการ์ตูน ปะป๊าหลับก่อนหนู แต่พอการ์ตูนจบปะป๊าก็ปิดค่ะ "  
  คุณครู " แล้วลูกส้มโอกับลูกชมพู่ใครหลับง่ายค่ะ "  
 
ส้มโอ + ชมพู่ ตอบพร้อมกัน
" ปะป๊าหลับง่ายค่ะ " (โชคดีของครอบครัวนะคะ ลูกรับผิดชอบตัวเองได้ดีมาก แต่หนูจะรู้ไหมที่ปะป๊าหลับง่ายน่ะ ความจริงปะป๊าหลับให้ดูเป็นตัวอย่างทุกวันไง แล้วปะป๊าก็มี หนูฝาแฝดที่น่ารักคอยดูแลปะป๊าอย่างดีเลย ครอบครัวไหนเก่งเหมือนเราไหม)  
       
 
           ติดตามสังคมลูกรักต่อได้ที่
 
     
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 1
 
 
 
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 2
 
 
 
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 3
 
 
 
 
สังคมลูกรักปี 2550 - ฉบับที่ 4
 
     
 
Website : Chaowdee.com